เกียร์ ESCOT

เรื่องราวของพัฒนาการ  ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1995

เปิดตัวครั้งแรกในควอนใหม่ เกียร์ ESCOT-VI ให้ความพึงพอใจในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีความปลอดภัยและไว้วางใจได้ เป็นผลจากการวิจัยพัฒนานานหลายปี เกียร์ ESCOT-VI เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของเกียร์ในตระกูล ESCOT อันยอดเยี่ยมที่เป็นการปฏิวัติเทคโนโลยีเกียร์อัตโนมัติในรถบรรทุกเพื่องานหนัก

ทำความรู้จัก

เริ่มจากเวอร์ชั่นแรก เกียร์ ESCOT มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้การขับรถบรรทุกขนาดใหญ่เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นโดยคนขับไม่ต้องเครียดกับการเปลี่ยนเกียร์ คนขับจึงมีสมาธิเต็มที่ในการขับซึ่งช่วยเสริมในเรื่องของความปลอดภัย ประโยชน์ที่ชัดเจนคือความสะดวกสบายในการขับขี่ประจำวัน การบังคับควบคุมรถทำได้ง่ายในทุกเส้นทางและสภาพการจราจร

ESCOT-Ⅱ

ติดตั้งในรถบรรทุกรุ่นบิ๊กทัมป์ (Big Thumb) เกียร์ ESCOT-II เป็นการก้าวกระโดดที่สำคัญของเกียร์อัตโนมัติที่ติดตั้งในยุคนั้น เป้าหมายของเกียร์รุ่นนี้คือช่วยให้การขับขี่ถบรรทุกขนาดใหญ่ง่ายและปลอดภัยขึ้น ESCOT-II เป็นเกียร์ที่ใช้คลัตช์อัตโนมัติ มันมีสามแป้นและคันเกียร์แบบซีเควนเชี่ยล คนขับต้องเหยียบคลัตช์เพียงครั้งเดียวเฉพาะตอนออกตัวเท่านั้น เกียร์รุ่นนี้ไม่ใช่เกียร์อัตโนมัติเต็มรูปแบบเนื่องจากคนขับยังต้องเปลี่ยนเกียร์เองเพียงแต่ไม่จำเป็นต้องเหยียบคลัตช์ร่วมด้วย และการเปลี่ยนเกียร์ก็เป็นเพียงการดันคันเกียร์ขึ้นลงเท่านั้น วิศวกรฝ่ายวิจัยและพัฒนาของยูดีเคยพัฒนาเกียร์ ESCOT-I ออกมาซึ่งจำเป็นต้องเหยียบคลัตช์ทุกครั้งถ้าจะเปลี่ยนเกียร์ ต่อมาเกียร์ ESCOT-II ที่ใช้คลัตช์อัตโนมัติผ่านการทดสอบที่เข้มงวดได้แล้ว ยูดีจึงมั่นใจว่าเกียร์รุ่นนี้สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพสูงกว่า และตัดสินใจนำเกียร์รุ่นนี้ออกวางตลาดโดยตรง เกียร์ ESCOT-II ถือเป็นต้นกำเนิดของเกียร์ในตระกูล ESCOT ที่ขับเคลื่อนได้เหนือกว่า มันต่างจากเกียร์อัตโนมัติทั่วไป เพราะคนขับจะไม่รู้สึกถึงอาการลื่นที่เกิดจากคอนเวอร์ทเตอร์ไฮดรอลิก ทำให้ควบคุมรถบรรทุกได้เต็มที่ด้วยความมั่นใจและอุ่นใจ คุณสมบัติเหล่านี้กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของ ESCOT ในเวลาต่อมา

ESCOT-Ⅲ

เกียร์ ESCOT-III พัฒนาการทำงานให้เป็นรูปแบบของเกียร์อัตโนมัติมากขึ้น โดยหลังจากคนขับเข้าเกียร์แรกเองเมื่อเริ่มออกรถแล้ว คนขับสามารถปล่อยให้เกียร์เปลี่ยนเองหรือจะสลับมาที่โหมดแมนนวลเพื่อเปลี่ยนเกียร์เองก็ได้โดยใช้คันเกียร์แบบซีเควนเชี่ยล ในปี 1998 คอนเซปท์ของเกียร์ ESCOT เน้นมิติด้านการประหยัดน้ำมันมากขึ้นโดยยูดีเพิ่มจำนวนเกียร์ให้มากขึ้นเพื่อให้แมทช์กับย่านแรงบิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

ESCOT-AT Ⅳ

เกียร์ ESCOT-AT-IV เป็นเกียร์อัตโนมัติเต็มรูปแบบรุ่นแรกในตระกูล ESCOT การออกรถจากจุดหยุดนิ่งไม่จำเป็นต้องเหยียบคลัตช์เลย ยกเว้นการถอยหลัง ในปี ESCOT-AT IV คือเกียร์รุ่นแรกในตระกูล ESCOT ที่ติดตั้งกับรถบรรทุกที่จำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มที่แอฟริกาใต้เป็นประเทศแรก ในปี 2007 มีการเพิ่มสวิทช์สำหรับการบรรทุกแบบไม่เต็มอัตราเข้าไป โดยในโหมดนี้จะตั้งโปรแกรมการเปลี่ยนเกียร์ให้เร็วกว่าโหมดปกติเพื่อช่วยประหยัดเชื้อเพลิงเมื่อรถไม่ได้บรรทุกสินค้าหรือไม่ได้บรรทุกไม่เต็มอัตรา

ESCOT-Ⅴ

"เกียร์ ESCOT-V เป็นการปฏิวัติเทคโนโลยีด้วยนวัตกรรมหลายอย่าง มันมีแป้นสองแป้นเท่านั้น การทำงานเป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมด หรือคนขับจะเปลี่ยนเกียร์เองก็ได้ การใช้นวัตกรรม อาทิ ระบบช่วยสตาร์ทบนเนิน ระบบ ESCOT Roll และ Criuse Control ทำให้ ESCOT-V ใช้งานง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด การเปลี่ยนเกียร์ทำได้เร็วขึ้น ราบลื่นขึ้นเนื่องจากใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาควบคุมเฟืองซิงโครเมซ โปรแกรมที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดให้เหมาะกับน้ำหนักบรรทุกเพื่อประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด เกียร์ ESCOT-V ใช้กับรถบรรทุกยูดีที่จำหน่ายทั่วโลก ทั้งในแอฟริกาใต้ แถบโอเชเนีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในปี 2014 เกียร์ ESCOT-V ได้รับการอัพเกรดซอฟแวร์ใหม่ และเพิ่มโหมด ECO เพื่อการประหยัดสูงสุด มีอุปกรณ์ควบคุมการเร่งความเร็วเพื่อควบคุมให้ความเร็วค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีฟังก์ชั่น Soft Cruise Controlเพิ่มเติมขึ้นมาด้วย"

ESCOT-Ⅵ

เกียร์ ESCOT-VI ใหม่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนด้วยคุณภาพเต็มเปี่ยม มีการเปลี่ยนคันโยกใหม่เป็นจากแบบ H ไปแบบตัว I ทำให้ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น มีระบบ Foretrack ที่ใช้ GPS ในการคาดการณ์เส้นทางข้างหน้าและจะเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสมโดยเลือกจากอัตราทด 12 จังหวะโดยอัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ เช่น ความชันของถนน โค้ง และอัตราบรรทุก ซึ่งจะช่วยลดภาระและความเครียดของคนขับ ทำให้ผู้ขับขี่ที่ไม่มีประสบการณ์สามารถประหยัดน้ำมันได้เทียบเท่ากับคนขับที่มีทักษะสูง นอกจากนี้โหมด ECO จะถูกตั้งเป็นค่าเริ่มต้นซึ่งช่วยให้สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ตลอดเวลา อีกนวัตกรรมที่น่าประทับใจคือฟังก์ชั่น Escape ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคลัตช์โดยสั่งให้จับ/ปล่อยเป็นจังหวะเมื่อขับไปติดหล่ม หิมะ หรือ โคลนโดยสั่งให้รถบรรทุกเดินหน้าถอยหลังไปมาจนหลุดออกมาจากหล่มได้เอง